liverpool 2022
liverpool 2022 ออกตัวในช่วงต้นฤดูกาลได้อย่างน่าผิดหวังสำหรับ หงส์แดง ลิเวอร์พูล ที่เก็บได้เพียง 2 คะแนน จากการลงเล่นไป 3 นัด ทำให้ตอนนี้ตกไปอยู่อันดับที่ 16 ของตารางฟุตบอลพรีเมียร์ลีก ทำให้ตอนนี้ลูกทีมของ เจอร์เก็น คล็อป จะต้องเร่งเครื่องทำผลงานให้กลับมาอย่างรวดเร็วให้ได้ ถ้าต้องการที่จะลุ้นแชมป์ในฤดูกาลนี้อีกครั้ง ก่อนที่จะเริ่มต้นฤดูกาลนักวิจารณ์ กูรู ต่างๆ ก็ยังมั่นใจว่าลิเวอร์พูลยังเป็นทีมลุ้นแชมป์ที่จะสามารถต่อกรกับแชมป์เก่าอย่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ได้ เพราะ นักเตะชุดหลักก็ยังอยู่กันครบ โดยขาดแค่ ซาดิโอ มาเน่ เท่านั้นที่ย้ายไปบาเยิร์น มิวนิค นอกนั้นก็ยังอยู่กันครบ และยังสามารถเสริมผู้เล่นกองหน้าตัวเป้า อย่าง ดาร์วิน นูเญซ เข้ามาอีกด้วย ทำให้มั่นใจได้ว่าจะสามารถแทนที่มาเน่ได้อย่างไม่มีปัญหา แต่พอเริ่มต้นฤดูกาล ผลงานกลับต่างออกไป ผู้เล่นตัวหลักไม่สามารถที่จะทำผลงานได้ตามมาตรฐาน และ ด้วยตัวผู้เล่นบาดเจ็บ คนที่ส่งมาลงเล่นแทนก็ไม่สามารถที่จะทดแทนได้ ทำให้ไม่สามารถที่จะทำให้ทีมมีผลงานได้อย่างที่หวังไว้ ซึ่งสาเหตุหลักๆที่ liverpool 2022 ทำผลงานได้อย่างน่าผิดหวัง น่าจะมีเหตุผลดังต่อไปนี้
การเล่นแบบดุดัน หายไป
เจอร์เก็น คล็อป ขึ้นชื่ออยู่แล้วในเรื่องของการเล่นเกมส์แบบ เพรสซิ่ง ซึ่งใน 3 ปีที่ผ่านมา ทำให้ลิเวอร์พูล ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก และ ได้แชมป์อย่างมากมาย แต่ในช่วงต้นฤดูกาล แทบจะเห็นการเล่นแบบนี้น้อยมาก ซึ่งก็ถือว่าน่าแปลกไม่น้อย อาจจะเป็นเพราะต้องการลองแท็คติกใหม่ๆ หรือ ความสมบูรณ์ ความฟิตของนักเตะ อาจจะยังไม่เข้าที่ก็เป็นได้ ซึ่ง เจอร์เก็น คล็อป จะต้องรีบแก้ไขโดยด่วน เพราะจุดนี้เป็นจุดแข็งที่ควรที่จะรักษาไว้ เพราะทำให้ทีมประสบความสำเร็จอย่างมากในช่วงทีผ่านมา
ผู้เล่นสำรองไม่สามารถแทนผู้เล่นตัวจริงได้
นักเตะตัวสำรองที่ลงมาแทนผู้เล่นตัวจริงที่บาดเจ็บ เช่น ในแดนกลางที่ผู้เล่นอย่าง ติอาโก้ อัลคันตาร่า ที่ได้รับบาดเจ็บ นักเตะที่ลงเล่นแทนอย่าง ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์ ก็ไม่สามารถทดแทนได้ ทำให้มีช่องว่างที่ไม่สมดุลในแดนกลาง ทำให้กลายเป็นช่องโหว่ให้ถูกโจมตีได้ง่าย รวมถึงแผงหลังด้วย ที่เปลี่ยนคู่ขาของ เวอร์จิล ฟาน ไดค์ ทั้งสามนัด ทำให้การประสานงานในแดนหลังก็มีข้อผิดพลาด ทำให้เสียประตูง่ายเกินไป ส่วนแนวรุก การขาดหายไปของ ซาดิโอ มาเน่ ที่ย้ายออกไป การบาดเจ็บของ ดิอาโก โชต้า ในช่วงฟรีซีซั่น ก็ส่งผลกระทบพอสมควร ทำให้ขาดมิติในเกมส์รุก และ การจบสกอร์ที่ไม่เฉียบคมเหมือนเดิมในช่วงหลัง ซึ่งอาจจะเป็นเพราะกำลังเปลี่ยนการเล่นโดยการมีกองหน้าตัวเป้าแทนที่จะมีผู้เล่นกองหน้าแบบฟอลส์ไนน์
ทีมต่างๆ เตรียมรับมือได้เป็นอย่างดี
แน่นอนว่าการทำผลงานได้ดีของลิเวอร์พูลในช่วงที่ผ่านมา ทำให้ทีมคู่แข่งต่างๆ ต้องศึกษาวิธีการเล่นของลิเวอร์พูลเป็นอย่างดี ทำให้ทีมต่างๆ หาวิธีรับมือได้ เช่น การตั้งรับในแนวลึก การแก้เกมส์เพรสซิ่ง ซึ่งจะเห็นได้ชัดว่าสามนัดที่ผ่าน จุดแข็งของลิเวอร์พูลนั้นแทบจะไม่ได้ใช้งานเลย เพราะคู่แข่งสามารถที่จะประเมินวิธีการเล่นของลิเวอร์พูลได้ และ สามทีมที่ผ่านมาก็ทำผลงานได้ดีเช่นกัน สามารถที่จะแก้เกมส์ได้เป็นอย่างดี ซึ่ง เจอร์เก็น คล็อป อาจจะต้องหาวิธีใหม่ๆ เพื่อที่จะแก้ไขปัญหาในจุดนี้
นักเตะเกิดอาการอิ่มตัว
เหตุผลที่เชื่อว่าน่าจะเป็นเหตุผลสำคัญที่สุดก็คือ นักเตะเกิดอาการอิ่มตัว หมดความท้าทาย การที่ลิเวอร์พูลประสบความสำเร็จมากมายทั้งการคว้าแชมป์ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก คาราบาวคัพ เอฟเอคัพ และรายการอื่นๆอีกมากมาย ทำให้นักเตะหลายคนในทีมเริ่มหมดไฟ หมดความท้าทายใหม่ๆ ตัวอย่างเช่น ซาดิโอ มาเน่ ที่ย้ายทีมออกไป เวอร์จิล ฟาน ไดค์ โรแบร์โต เฟอร์มิโน จอร์แดน เฮนเดอร์สัน อลิสซอน เบคเกอร์ และ คนอื่นๆ ที่เป็นตัวหลักในช่วง 4- 5 ปีที่ผ่านมา ทำให้ความมุ่งมั่นลดน้อยลง และ บางคนก็อยู่ในช่วงขาลง ทำให้ในช่วงนี้อาจจะเป็นช่วงรอยต่อระหว่างการสร้างทีมจากชุดเดิมสู่ชุดใหม่ ซึ่งต้องใช้เวลาพอสมควรในการที่จะเข้าที่เข้าทาง
แย่ที่สุดในรอบ 10 ปี
ด้วยเหตุผลทั้งหมดนี้ คือปัจจัยที่ทำให้ลิเวอร์พูล มีผลงานที่แย่ที่สุดในรอบ 10 ปี โดยการเก็บได้แค่ 2 คะแนน จากการลงเล่น 3 นัด ซึ่ง เจอร์เก็น คล็อป ก็จะต้องแก้ไขให้เร็วที่สุด เพราะทีมคู่แข่งแย่งแชมป์อย่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ก็ทำผลงานได้ดีเหมือนเช่นเคย แม้จะเก็บคะแนนได้ 7 คะแนน ชนะ 2 เสมอ 1 แต่ผลงานโดยรวมก็ถือว่าดีกว่าลิเวอร์พูลในช่วงนี้มาก เชื่อว่า เจอร์เก็น คล็อป คงจะต้องกระตุ้นลูกทีมอย่างหนัก สร้างแรงจูงใจให้นักเตะตัวหลักที่อยู่กับทีมมานาน และ ทำให้ผู้เล่นหน้าใหม่ที่เสริมทัพเข้ามา สามารถที่จะเล่นเข้าขากันกับทีมชุดเดิมให้เร็วที่สุด เพราะถ้าช้าไปอาจจะส่งผลถึงการลุ้นแชมป์ในระยะยาวได้ เพราะถ้าแก้ไขไม่ทันท่วงที อาจจะต้องหวังแค่พื้นที่ฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก 4 อันดับแรกแทน ซึ่งคงจะน่าผิดหวังไม่น้อย